วิธีตั้งชื่อมงคลตามหลักทักษา

การตั้งชื่อถือเป็นศาสตร์และศิลป์ที่สืบทอดกันมายาวนานในสังคมไทย ชื่อที่ถูกคัดสรรมาอย่างดีไม่ได้เป็นเพียงคำเรียกขาน แต่ยังเป็นเสมือนรหัสแห่งพลังงานที่กำหนดทิศทางชีวิต อุปนิสัย และความสำเร็จของผู้เป็นเจ้าของ ดังนั้น การพิจารณาเลือกชื่อตามหลักโหราศาสตร์ โดยเฉพาะ "หลักทักษาปกรณ์" หรือ "ทักษา" จึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ผู้นำไปใช้ต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพื่อให้ชื่อนั้นเป็นมงคลและเกื้อหนุนดวงชะตาได้อย่างแท้จริง บทความนี้จะนำเสนอหลักการตั้งชื่อตามหลักทักษาอย่างละเอียดถี่ถ้วน ตั้งแต่รากฐานของศาสตร์ไปจนถึงการประยุกต์ใช้ร่วมกับหลักวิชาเลขศาสตร์และอายตนะ 6 เพื่อให้ผู้อ่านสามารถสร้างสรรค์ชื่อมงคลที่สมบูรณ์แบบได้ด้วยตนเอง

ตั้งชื่อมงคลกับอาจารย์ คลิกเพิ่มเพื่อน

ทำไมการตั้งชื่อตามหลักโหราศาสตร์จึงสำคัญ

พลังของชื่อมีอิทธิพลต่อชีวิตในหลายมิติ ชื่อทำหน้าที่เป็นคลื่นสั่นสะเทือนทางจิตวิทยาและจิตวิญญาณ เป็นตัวกำหนดความรู้สึกนับถือตนเอง (Self-Esteem) และการรับรู้ของผู้อื่นต่อบุคคลนั้นๆ ในทางโหราศาสตร์ เชื่อว่าชื่อที่ได้รับการวิเคราะห์และตั้งตามหลักมงคลนั้น จะทำหน้าที่เป็น "เครื่องมือ" ในการเสริมดวงชะตาของผู้เป็นเจ้าของให้แข็งแกร่งขึ้น

หลักโหราศาสตร์ยอมรับว่าดวงชะตาพื้นฐานที่เกิดจากวัน เดือน ปี และเวลาเกิด (ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้) เป็นรากฐานของชีวิต แต่ชื่อมงคลนั้นเปรียบเสมือนการเติมพลังงานที่ดีเข้ามาในระบบชะตาชีวิตส่วนบุคคล ทำให้เกิดความสมดุลและลดผลกระทบจากอุปสรรคหรือความอ่อนแอในดวงชะตาเดิม หากชะตาชีวิตเปรียบเหมือนเรือที่แล่นอยู่ในทะเล ชื่อมงคลก็คือใบเรือที่ช่วยให้เรือลำนั้นแล่นไปในทิศทางที่ดีที่สุดได้อย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น

หลักทักษาคืออะไร: ทำความเข้าใจ 8 ภูมิ และดาวอัฏฐเคราะห์

ทักษา หรือ ทักษาปกรณ์ เป็นศาสตร์โบราณของไทยที่ใช้ในการพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างตัวอักษรกับดวงดาวประจำวันเกิด หลักทักษานี้มีพื้นฐานมาจาก "ดาวอัฏฐเคราะห์" หรือดาวพระเคราะห์ทั้ง 8 ดวง ซึ่งประกอบด้วย พระอาทิตย์ (1), พระจันทร์ (2), พระอังคาร (3), พระพุธ (4), พระพฤหัสบดี (5), พระศุกร์ (6), พระเสาร์ (7), และ พระราหู (8) โดยพระราหูหมายถึงดาวพระเคราะห์ที่ปกครองช่วงเวลาพุธกลางคืน ทำให้วันเกิดทั้ง 7 วัน ถูกแบ่งออกเป็น 8 ช่วงเวลาแห่งการครองดวงดาว

องค์ประกอบทั้ง 8 เหล่านี้ถูกจัดเรียงตามทิศและหมุนเวียนไปตามลำดับ โดยกำหนดให้ "วันเกิด" ของบุคคลนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการนับ ซึ่งเรียกว่า บริวาร และนับเวียนไปทางขวาตามลำดับของทักษาภูมิจนครบ 8 ตำแหน่ง การหมุนเวียนนี้เองที่เป็นหัวใจในการวิเคราะห์ว่าตัวอักษรใดจะให้คุณหรือให้โทษแก่เจ้าชะตาในแต่ละวันเกิด

ความหมายของ 8 ภูมิ: แก่นแท้ของการตั้งชื่อมงคล

ตำแหน่งทั้ง 8 ในหลักทักษาปกรณ์นั้นมีชื่อเรียกว่า "ภูมิ" (Phum) แต่ละภูมิมีความหมายและให้คุณในการส่งเสริมชีวิตแตกต่างกัน การทำความเข้าใจความหมายของแต่ละภูมิเป็นสิ่งสำคัญในการกำหนดเป้าหมายของการตั้งชื่อว่าต้องการเน้นพลังงานด้านใดเป็นพิเศษ:

ผู้เชี่ยวชาญด้านทักษามักแนะนำให้ชื่อนั้นประกอบด้วยอักขระจากภูมิที่มีความสำคัญสูง โดยเฉพาะอักขระที่อยู่ใน ศรี ซึ่งเน้นโชคลาภและความสำเร็จ และ มนตรี ซึ่งเน้นการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์อย่างละเอียดจะพบว่า แม้แต่ภูมิ บริวาร ที่เป็นจุดเริ่มต้น ก็มีความสำคัญในการสร้างรากฐานที่ดีในชีวิต เช่น การมีครอบครัวที่อบอุ่นและการมีลูกน้องที่ซื่อสัตย์ การใช้ชื่อที่ส่งเสริมบริวารจึงช่วยให้เจ้าชะตาไม่โดดเดี่ยว และมีฐานสนับสนุนที่มั่นคงในการทำงานและใช้ชีวิต

ชื่อที่ดีควรหลีกเลี่ยงอักษรกาลกิณี

ในการตั้งชื่อตามหลักทักษาปกรณ์ สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญสูงสุดและเป็นกฎเหล็กที่ไม่อาจละเลยได้ คือการหลีกเลี่ยงการใช้อักษรที่เป็น กาลกิณี สำหรับวันเกิดนั้นๆ โดยสิ้นเชิง อักษรในหมวดกาลกิณีถือเป็นอักขระแห่งความอาภัพ อุปสรรค ความเป็นเสนียด และความไม่เป็นมงคล การวิเคราะห์ชื่อโดยผู้เชี่ยวชาญมักแสดงให้เห็นว่า แม้ชื่อนั้นจะประกอบด้วยอักขระที่ดีจำนวนมากในภูมิ เดช หรือ ศรี แต่หากมีอักษรกาลกิณีปรากฏอยู่เพียงตัวเดียว ก็เชื่อว่าสามารถลบล้างพลังงานบวกทั้งหมด และนำมาซึ่งความติดขัดในชีวิตได้ ดังนั้น การตรวจสอบและกำจัดอักษรในภูมิกาลกิณีจึงเป็นขั้นตอนแรกและสำคัญที่สุดในการตั้งชื่อมงคล

สิ่งที่มักจะถูกละเลยและเป็นความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดในการตั้งชื่อด้วยตนเองคือ กับดักของสระและอักษร อ ผู้คนส่วนใหญ่มักมุ่งเน้นไปที่พยัญชนะต้นเท่านั้น แต่ในหลักทักษา สระทั้งหมด (เช่น อะ อา อิ อี อุ อู ฯลฯ) รวมถึงพยัญชนะ อ และ ห เป็นกลุ่มอักขระที่มีตำแหน่งภูมิชัดเจน และบ่อยครั้งที่กลุ่มอักขระนี้กลายเป็น กาลกิณี สำหรับผู้ที่เกิดในบางวัน (เช่น วันจันทร์) หากชื่อใดใช้สระที่เป็นกาลกิณี ชื่อนั้นย่อมถูกลดทอนความเป็นมงคลทันที ดังนั้น การพิจารณาอักขระในชื่อจึงต้องรวมถึงสระและเครื่องหมายอื่นๆ (เช่น ไม้หันอากาศ หรือ การันต์) ด้วยเช่นกัน

กลุ่มอักษรตามวันเกิด (อักษรที่ต้องห้ามคือกาลกิณี)

หลักทักษาแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า พลังงานของตัวอักษรไม่ได้คงที่ แต่จะหมุนไปตามวันเกิด ตัวอย่างเช่น อักษร *ด ต ถ ท ธ น* อาจเป็น *ศรี* สำหรับผู้เกิดวันจันทร์ แต่กลับกลายเป็น *กาลกิณี* สำหรับผู้เกิดวันพฤหัสบดี ความแตกต่างนี้สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งทางโหราศาสตร์ระหว่างดาวที่ครองวันเกิดกับดาวที่ครองอักขระนั้นๆ

(หมายเหตุ: การจัดกลุ่มพยัญชนะในตารางอาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อยตามสำนักโหร แต่หลักการใหญ่ของการนับภูมิยังคงเป็นไปตามหลักทักษาปกรณ์)

ตั้งชื่อมงคลกับอาจารย์ คลิกเพิ่มเพื่อน

คู่มือการประยุกต์ใช้ทักษา: ตั้งชื่อมงคลตามวันเกิด

3 ขั้นตอนการวิเคราะห์ชื่อตามหลักทักษาปกรณ์

การตั้งชื่อตามหลักทักษามีขั้นตอนที่เป็นระบบและชัดเจน เพื่อให้แน่ใจว่าชื่อที่ได้นั้นมีความสมบูรณ์ตามหลักการทางโหราศาสตร์

1. ขั้นตอนที่ 1: ระบุวันและเวลาเกิดที่แน่นอน

   การนับวันเกิดทางโหราศาสตร์ไทยมักใช้เกณฑ์ที่แตกต่างจากการนับวันตามปฏิทินสากล โดยทั่วไปถือว่าวันใหม่เริ่มตั้งแต่เวลา 6:00 น. ของวันนั้นไปจนถึง 5:59 น. ของวันรุ่งขึ้น การระบุช่วงเวลาเกิดให้ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการแยกแยะระหว่างผู้ที่เกิดวันพุธกลางวัน (ตั้งแต่ 6:00 น. ถึง 17:59 น.) และผู้ที่เกิดวันพุธกลางคืน (ตั้งแต่ 18:00 น. ถึง 5:59 น. ของวันพฤหัสบดี) เนื่องจากอักษรกาลกิณีของทั้งสองช่วงเวลาแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

2. ขั้นตอนที่ 2: ตัดอักษรกาลกิณีออกจากตัวเลือกทั้งหมด

   ใช้ตารางแผนผังทักษาปกรณ์เพื่อระบุกลุ่มอักษรที่เป็น กาลกิณี สำหรับวันเกิดของเจ้าชะตา ขั้นตอนนี้คือการคัดกรองเบื้องต้น โดยจะต้องมั่นใจว่าชื่อที่เลือกมานั้นไม่มีพยัญชนะ สระ หรือแม้แต่เครื่องหมายอื่นๆ ที่อยู่ในหมวดกาลกิณีเลยแม้แต่ตัวเดียว (ต้องได้ผลลัพธ์เป็น 0 กาลกิณี)

3. ขั้นตอนที่ 3: เลือกอักขระที่เสริม ศรี, เดช, และมนตรี

   เมื่อกำจัดอักษรต้องห้ามแล้ว ให้พิจารณาว่าชื่อที่ต้องการจะเน้นการส่งเสริมในด้านใดเป็นพิเศษ (เช่น หากต้องการเน้นความมั่งคั่ง ให้เลือกอักษรในภูมิ ศรี หากต้องการเน้นอำนาจบารมี ให้เลือกอักษรในภูมิ เดช) การจัดวางอักขระในชื่อควรมีสัดส่วนของอักขระมงคลเหล่านี้สูงที่สุด

รายละเอียดเฉพาะสำหรับการตั้งชื่อตามวันเกิด:

วันอาทิตย์ (The Power of the Sun)

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์มีความโดดเด่นในเรื่องของความเป็นผู้นำและความกระตือรือร้น

• อักษรกาลกิณี (ต้องห้าม): ศ ษ ส ห ฬ ฮ (อักษรในวรรคเศษที่มีเสียงออกอากาศและเสียงเสียดแทรก)
• ภูมิที่ควรเน้น: เน้นพลัง เดช (อำนาจ) เพื่อเสริมความเป็นผู้นำ และ มนตรี (ผู้ใหญ่อุปถัมภ์) เพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากผู้มีบารมี
• ตัวอย่างการวิเคราะห์: หากชื่อมีอักขระ อ (ซึ่งเป็นบริวาร) หลายตัว มี ช (เดช) และ ร (มนตรี) แต่ไม่มีอักษรกาลกิณีเลย ชื่อนี้จะเสริมความสัมพันธ์กับผู้แวดล้อม อำนาจ และการอุปถัมภ์อย่างสมบูรณ์

วันจันทร์ (The Charm of the Moon)

ผู้ที่เกิดวันจันทร์มีลักษณะอ่อนโยน มีเสน่ห์ และรักความสงบ

• อักษรกาลกิณี (ต้องห้าม): อ และสระทั้งหมด (รวมถึงรูปสระและเสียงสระ)
• ภูมิที่ควรเน้น: เน้น ศรี (โชคลาภและความเสน่ห์) และ มนตรี (ความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่)
• คำแนะนำเฉพาะ: เนื่องจากสระทั้งหมดเป็นกาลกิณี ผู้ที่เกิดวันจันทร์จึงต้องตั้งชื่อที่หลีกเลี่ยงการใช้สระทุกชนิด ทำให้ชื่อที่ถูกหลักมงคลสำหรับวันจันทร์มักจะต้องใช้การผสมคำหรือพยัญชนะควบกล้ำเพื่อลดการพึ่งพาสระ หรืออาจใช้คำที่มีอักษร *ศ ษ ส ห ฬ ฮ* เป็น มนตรี

วันอังคาร (The Courage of Mars)

ผู้ที่เกิดวันอังคารมีลักษณะกล้าหาญ ตรงไปตรงมา และมีความมุ่งมั่น

• อักษรกาลกิณี (ต้องห้าม): ก ข ค ฆ ง (อักษรวรรค ก)
• ภูมิที่ควรเน้น: เน้น เดช (ความกล้าหาญและบารมี) และ ศรี (ความมั่งคั่ง)
• คำแนะนำเฉพาะ: อักษรในหมวด *ด ต ถ ท ธ น* เป็น เดช ซึ่งช่วยส่งเสริมบารมีในการออกคำสั่งและความเชื่อมั่น ส่วนอักษร *บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม* เป็น ศรี ซึ่งช่วยนำมาซึ่งโชคลาญทางการเงิน

วันพุธ (กลางวัน) (The Intellect of Mercury)

ผู้ที่เกิดวันพุธกลางวันมีความฉลาด มีไหวพริบ และมีความสามารถในการสื่อสาร

• อักษรกาลกิณี (ต้องห้าม): จ ฉ ช ซ ฌ ญ (อักษรวรรค จ)
• ภูมิที่ควรเน้น: เน้น ศรี (เสน่ห์และความสำเร็จจากการเจรจา) และ มูละ (ทรัพย์สินที่เป็นหลักฐาน)
• คำแนะนำเฉพาะ: การเริ่มต้นชื่อด้วยอักษรในวรรค *ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ* ซึ่งเป็น บริวาร จะช่วยสร้างรากฐานที่ดีในความสัมพันธ์กับผู้อื่น ในขณะที่การเลือกใช้ *ย ร ล ว ฬ* เป็น ศรี จะส่งเสริมโชคลาภอย่างรวดเร็ว

วันพุธ (กลางคืน) (The Mystery of Rahu)

ผู้ที่เกิดวันพุธกลางคืนมักมีความคิดลึกซึ้ง มีสัมผัสพิเศษ และมีความเข้มแข็งในการต่อสู้กับอุปสรรค

• อักษรกาลกิณี (ต้องห้าม): บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม (อักษรวรรค บ)
• ภูมิที่ควรเน้น: เน้น ศรี (ความมั่งคั่งที่ได้มาอย่างคาดไม่ถึง) และ อายุ (ความยืนยาวและปราศจากโรคภัย)
• ข้อมูลเฉพาะ: กลุ่มอักษรที่ต้องห้ามนี้เป็นกลุ่มเดียวกับอักษร บริวาร ของผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพลังงานที่ตรงกันข้ามกับความเป็นผู้อุปถัมภ์ที่มั่นคง ดังนั้นชื่อมงคลสำหรับวันพุธกลางคืนจึงต้องระมัดระวังการใช้พยัญชนะที่เน้นการสนับสนุนทางวัตถุที่มากเกินไป

วันพฤหัสบดี (The Wisdom of Jupiter)

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดีมีความเมตตา มีสติปัญญา และมักเป็นที่ปรึกษาที่ดี

• อักษรกาลกิณี (ต้องห้าม): ด ต ถ ท ธ น (อักษรวรรค ด)
• ภูมิที่ควรเน้น: เน้น มนตรี (การอุปถัมภ์จากผู้ใหญ่) และ ศรี (สติปัญญาและความรู้)
• คำแนะนำเฉพาะ: กลุ่มอักษรต้องห้ามในวันนี้คือกลุ่มที่ใช้กันทั่วไปในชื่อไทย ทำให้การตั้งชื่อต้องพยายามหลีกเลี่ยงอักษรเหล่านี้โดยเด็ดขาด อักษรในกลุ่ม *ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ* เป็น มนตรี ที่ดีที่สุดสำหรับวันนี้

วันศุกร์ (The Charm of Venus)

ผู้ที่เกิดวันศุกร์มีเสน่ห์ มีรสนิยมดี และรักความสวยงามและความบันเทิง

• อักษรกาลกิณี (ต้องห้าม): ย ร ล ว ฬ (อักษรในวรรคเศษที่ทำหน้าที่กึ่งสระ)
• ภูมิที่ควรเน้น: เน้น ศรี (เสน่ห์และโชคลาภที่ทำให้ชีวิตราบรื่น) และ อุตสาหะ (ความสำเร็จจากการทำงาน)
• คำแนะนำเฉพาะ: เนื่องจาก *ย ร ล ว* เป็นกาลกิณี การตั้งชื่อที่ถูกต้องตามหลักจึงต้องหลีกเลี่ยงพยัญชนะเหล่านี้ทั้งหมด แต่สามารถใช้กลุ่มอักษร *ศ ษ ส ห* เป็น ศรี ได้อย่างเต็มที่ เพื่อดึงดูดความโชคดี

วันเสาร์ (The Stability of Saturn)

ผู้ที่เกิดวันเสาร์มีความอดทนสูง มีความรับผิดชอบ และรักความมั่นคง

• อักษรกาลกิณี (ต้องห้าม): ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ (อักษรวรรค ฎ)
• ภูมิที่ควรเน้น: เน้น มูละ (ความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สิน) และ เดช (บารมีและอำนาจ)
• ตัวอย่างการวิเคราะห์: หากชื่อมีอักขระ อ (ซึ่งเป็นมูละ) ร (เดช) ถ และ น (บริวาร) โดยไม่มีอักษรกาลกิณี ชื่อนี้จะเสริมความมั่นคงทางฐานะและอำนาจวาสนา

ตั้งชื่อมงคลกับอาจารย์ คลิกเพิ่มเพื่อน

การรวมพลังแห่งตัวอักษรและตัวเลข(ทักษาและเลขศาสตร์)

เพื่อให้ชื่อนั้นทรงพลังและเป็นมงคลอย่างแท้จริง การพิจารณาหลักทักษาเพียงอย่างเดียวอาจยังไม่เพียงพอ ผู้เชี่ยวชาญจึงนิยมนำหลักการตั้งชื่ออื่นมาใช้ประกอบ โดยเฉพาะเลขศาสตร์ (Leksat) และ อายตนะ 6 (Ayatana 6)

หลักทักษาทำหน้าที่เป็น ตัวกรองเชิงคุณภาพ คือการคัดเลือกอักขระที่ปลอดภัยและเป็นมงคล (Zero Kālakinī) แต่หลัก เลขศาสตร์ ทำหน้าที่เป็น ตัวกรองเชิงปริมาณ คือการคำนวณผลรวมพลังงานสะสมทั้งหมดของชื่อ เพื่อให้มั่นใจว่าชื่อนั้นมี "ผลรวมกำลังพระเคราะห์" ที่เป็นมงคล หากชื่อผ่านเกณฑ์ทักษา แต่มีผลรวมเลขศาสตร์ที่ไม่ดี (เช่น ได้เลข 13, 16, 18 ซึ่งถือว่าเป็นเลขร้าย) พลังงานโดยรวมของชื่อก็จะอ่อนแอลง

ข้อควรระวังในการตั้งชื่อมงคลที่ทุกคนทำพลาด

เพื่อให้การตั้งชื่อประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด ควรระลึกถึงข้อผิดพลาดสำคัญที่มักเกิดขึ้นในการตั้งชื่อตามหลักทักษา:

1. การละเลยสระและเครื่องหมาย: ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดคือการไม่นับรวมสระและเครื่องหมายการันต์ในการวิเคราะห์ภูมิ ดังที่ได้กล่าวไปแล้วว่าสระมีโอกาสเป็นกาลกิณีสูงมากสำหรับผู้ที่เกิดหลายวัน การนับเฉพาะพยัญชนะต้นเท่านั้นถือเป็นความเสี่ยงอย่างยิ่งต่อพลังงานโดยรวมของชื่อ
2. การมุ่งเน้นเฉพาะอักษรตัวแรก: หลักทักษาปกรณ์ไม่ได้พิจารณาแค่อักขระตัวแรกของชื่อเท่านั้น แต่พิจารณาอักขระทุกตัวที่ประกอบกันเป็นคำนามทั้งหมด การนำอักขระทุกตัวในชื่อมาเทียบกับภูมิทั้ง 8 และคำนวณผลรวมตามหลักเลขศาสตร์จึงเป็นสิ่งจำเป็น
3. การละเลยความหมายที่ดี (*อรรถ*): ชื่อที่เป็นมงคลอย่างแท้จริงจะต้องผ่านการกรองตามหลักทักษา เลขศาสตร์ และอายตนะ 6 แล้ว ยังต้องมีความหมายตามพจนานุกรม (อรรถ) ที่ดีงาม สื่อถึงความสำเร็จ ความสุข หรือคุณธรรม ชื่อที่มีความหมายดีจะช่วยเสริมความรู้สึกเชิงบวกให้กับผู้เป็นเจ้าของตลอดชีวิต

การอัปเดตชื่อและการรักษาพลังงานที่ดี

สำหรับบุคคลที่พิจารณาเปลี่ยนชื่อในภายหลัง การตัดสินใจนั้นเกิดจากความเชื่อที่ว่า พลังงานของชื่อใหม่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงและเสริมดวงชะตาให้ดีขึ้น เมื่อได้ชื่อใหม่ที่เป็นมงคลแล้ว การใช้ชื่อนั้นอย่างสม่ำเสมอในการดำเนินชีวิตและการทำงานถือเป็นการ "เปิดรับ" พลังงานเชิงบวกที่ชื่อมอบให้

การตั้งชื่อมงคลตามหลักทักษาปกรณ์จึงเป็นมากกว่าพิธีกรรมทางโหราศาสตร์ แต่เป็นการลงทุนทางพลังงานที่ส่งผลต่อทุกมิติของชีวิต หากมีการวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนตามขั้นตอนที่กล่าวมาทั้งหมด ชื่อที่ได้ย่อมเป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสมดุล ความสำเร็จ และความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตอย่างยั่งยืน

ตั้งชื่อมงคลกับอาจารย์ คลิกเพิ่มเพื่อน