
การตั้งนามสกุลใหม่เพื่อขอจดทะเบียนกับกรมการปกครอง ไม่ใช่เพียงแค่ตั้งชื่อให้ไพเราะหรือแปลความหมายดีเท่านั้น แต่ยังต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และข้อบังคับทางกฎหมายอย่างเคร่งครัดด้วยค่ะ หากไม่ปฏิบัติตาม อาจถูกปฏิเสธการจดทะเบียนได้โดยไม่สามารถอุทธรณ์ได้ ดังนั้น หากคุณกำลังวางแผนตั้งนามสกุลใหม่ ควรศึกษาข้อกำหนดต่าง ๆ อย่างละเอียด โดย 79hora. com ขอนำวิธีการในการจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายและตรงตามข้อกำหนดของกรมการปกครอง ดังนี้
12 หลักหลักเกณฑ์การตั้งนามสกุลใหม่ ล่าสุด
- ห้ามใช้ชื่อพ้องหรือใกล้เคียงกับพระปรมาภิไธย : นามสกุลต้องไม่เหมือนหรือคล้ายกับพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์ พระราชินี หรือราชทินนาม เว้นแต่เป็นราชทินนามของตน บิดา มารดา หรือของบรรพบุรุษโดยตรงเท่านั้น การละเมิดข้อนี้ถือเป็นความผิดร้ายแรง
- ห้ามซ้ำกับนามสกุลที่มีอยู่แล้ว : นามสกุลที่ตั้งใหม่ต้องไม่ซ้ำกับนามสกุลที่ได้รับพระราชทาน นามสกุลที่จดทะเบียนไว้แล้วในระบบ นามสกุลที่อยู่ในฐานข้อมูลของกรมการปกครอง (ทั้งทะเบียนชื่อบุคคลและทะเบียนราษฎร) ควรตรวจสอบล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกปฏิเสธ
- ต้องไม่มีคำหยาบคายหรือส่อความหมายเสื่อมเสีย : คำที่ใช้ในนามสกุลต้องสุภาพ ไม่มีความหมายหยาบคาย หยาบโลน หรือละเมิดศีลธรรมอันดีงามของไทย
- จำกัดจำนวนพยัญชนะไม่เกิน 10 ตัว : นามสกุลต้องไม่ยาวเกินสิบพยัญชนะ ยกเว้นในกรณีที่ใช้ราชทินนาม ซึ่งจะได้รับการยกเว้นเป็นพิเศษ
- ห้ามใช้นำหน้านามสกุลว่า “ณ” หากไม่ได้รับพระราชทาน : ตามประกาศเมื่อปี พ.ศ. 2458 ผู้ที่ไม่ได้รับพระราชทานนามสกุลไม่สามารถใช้คำนำหน้านามสกุลว่า "ณ" ได้ เช่น “ณ อยุธยา” หรือ “ณ เชียงใหม่”
- ห้ามใช้เครื่องหมายนามสกุลของราชตระกูลหรือราชสกุล : ต้องไม่ใช้เครื่องหมายพิเศษที่สงวนไว้ให้ราชวงศ์ตามประกาศปี พ.ศ. 2458 และ พ.ศ. 2467
- ห้ามใช้ "นามพระมหานคร" หรือศัพท์ในพระบรมนามาภิไธย : ห้ามนำคำที่เป็นชื่อเมืองหลวงหรือที่ใช้เฉพาะในพระบรมนามาภิไธย เช่น "กรุงเทพมหานคร" หรือศัพท์ที่มีลักษณะเฉพาะของพระมหากษัตริย์มาใช้
- ต้องไม่มีการเว้นวรรคระหว่างคำหรือพยางค์ : นามสกุลต้องเขียนติดกันเป็นคำเดียว ไม่สามารถเว้นวรรคหรือแยกพยางค์ได้ เช่น "ภักดีวงศ์" ไม่สามารถเขียนเป็น “ภักดี วงศ์”
- ห้ามมีเครื่องหมายพิเศษหรือสัญลักษณ์ : นามสกุลต้องไม่มีการใส่คำเชื่อม เครื่องหมายวรรณยุกต์พิเศษ ตัวเลข หรือสัญลักษณ์ที่กฎหมายไม่รับรอง เช่น "@" "#" หรือ “-”
- ต้องมีความหมายชัดเจน : นามสกุลที่ตั้งใหม่ควรเป็นคำที่มีความหมายและปรากฏอยู่ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานหรือพจนานุกรมฉบับอื่นที่เป็นที่ยอมรับในเชิงวิชาการ
- ต้องสะกดคำให้ถูกต้องตามหลักภาษาไทย : ใช้ตัวสะกด ตัวการันต์ และหลักไวยากรณ์ภาษาไทยอย่างถูกต้อง เช่น ห้ามใช้ "ชัณฐ์" หากไม่มีในพจนานุกรมและสะกดไม่ถูกต้องตามหลักภาษา
- ต้องไม่ขัดต่อจารีตประเพณีหรือศีลธรรม : นามสกุลต้องไม่เป็นที่เสื่อมเสีย ขัดต่อความสงบเรียบร้อย ศีลธรรม และวัฒนธรรมไทย เช่น ชื่อที่ล้อเลียน ดูหมิ่น หรือแสดงออกถึงความรุนแรง
หมายเหตุเพิ่มเติม: หากมีข้อสงสัยหรือไม่แน่ใจเกี่ยวกับนามสกุลที่ต้องการใช้ สามารถสอบถามข้อมูลโดยตรงได้ที่กรมการปกครอง โทรศัพท์ 0 2791 7048 - 9 เพื่อขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในการพิจารณาโดยตรง
การตั้งนามสกุลใหม่ควรมีวิธีการอย่างไร
-
ลองร่างนามสกุลไว้หลายแบบ เพื่อเผื่อกรณีชื่อซ้ำหรือไม่ผ่านเกณฑ์ :
การตั้งนามสกุลไม่ควรยึดติดกับชื่อเดียว เพราะชื่อที่คิดไว้อาจมีผู้ใช้ไปแล้ว หรือมีลักษณะไม่ตรงตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด เช่น มีจำนวนพยัญชนะเกิน 10 ตัว หรือไปพ้องกับชื่อที่ได้รับพระราชทาน การร่างนามสกุลไว้หลายตัวเลือกจะช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนหรือเลือกชื่ออื่นได้ทันทีโดยไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ -
ตรวจสอบคำที่ใช้ว่ามีในพจนานุกรมหรือไม่ และมีความหมายดีหรือไม่:
นามสกุลต้องประกอบด้วยคำที่มีอยู่จริงในพจนานุกรม โดยเฉพาะพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หากใช้คำที่แต่งขึ้นมาเองโดยไม่มีความหมาย หรือสะกดผิด อาจถูกปฏิเสธจากเจ้าหน้าที่ได้ค่ะ ผู้ขอจึงควรตรวจสอบความหมาย ความถูกต้องของคำ และพิจารณาว่าคำนั้นให้ความหมายที่ดีเหมาะสมกับการใช้เป็นชื่อประจำตระกูลหรือไม่ -
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาไทย หรือตั้งนามสกุลกับอาจารย์ (โหราศาสตร์, เลขศาสตร์) :
หากต้องการตั้งนามสกุลที่มีทั้งความหมายดี และเสริมพลังด้านโชคชะตา ผู้ขออาจพิจารณาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เช่น นักโหราศาสตร์ ผู้รู้ด้านเลขศาสตร์ หรือนักภาษาศาสตร์ เพื่อช่วยในการประมวลผลอักขระ วิเคราะห์พลังชื่อ และเสนอทางเลือกที่เป็นมงคลหรือมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้น -
ใช้บริการตรวจสอบนามสกุลออนไลน์ของกรมการปกครอง (หากระบบเปิดให้บริการ):
บางช่วงเวลาทางกรมการปกครองอาจมีระบบออนไลน์สำหรับตรวจสอบนามสกุลที่มีการจดทะเบียนไว้แล้ว ผู้ขอสามารถใช้ระบบดังกล่าวในการตรวจสอบเบื้องต้นว่าชื่อที่ต้องการมีอยู่ในระบบหรือไม่ ช่วยลดความเสี่ยงในการตั้งชื่อซ้ำ และเพิ่มความรวดเร็วในกระบวนการจดทะเบียน -
ตรวจสอบประวัติและความหมายของคำอย่างถี่ถ้วนก่อนส่งจดทะเบียน :
บางคำอาจมีความหมายหลายนัย หรือเคยถูกใช้ในบริบทที่ไม่เหมาะสม เช่น ชื่อที่พ้องเสียงกับคำหยาบ คำล้อเลียน หรือคำที่อาจตีความได้ในเชิงเสื่อมเสีย ผู้ขอควรตรวจสอบทั้งความหมายโดยตรงและความหมายแฝง ตลอดจนที่มาของคำ เพื่อให้มั่นใจว่านามสกุลที่ตั้งจะไม่ก่อให้เกิดผลเสียในระยะยาว ทั้งในทางกฎหมายและภาพลักษณ์ของตระกูล
การใส่ใจในรายละเอียดของนามสกุลตั้งแต่ขั้นตอนแรก จะช่วยให้การจดทะเบียนเป็นไปอย่างราบรื่น และได้นามสกุลที่เหมาะสมภาคภูมิใจไปชั่วลูกหลาน
ตัวอย่างนามสกุลที่สามารถตั้งได้
การตั้งนามสกุลใหม่ในปัจจุบันมักนิยมใช้คำที่มีความหมายดี สื่อถึงความเจริญ ความสำเร็จ ความมั่งคั่ง หรือคุณธรรมของวงศ์ตระกูล โดยต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกรมการปกครองอย่างครบถ้วน ตัวอย่างนามสกุลต่อไปนี้ เป็นนามสกุลที่มีความหมายงดงาม เหมาะสมกับการนำไปใช้จดทะเบียนได้จริง (หากยังไม่มีผู้ใช้ในระบบ)
1. ปวีณภิรมย์กุล
ความหมาย: ตระกูลของผู้ฉลาดที่มีความรื่นเริงยิ่ง
ประกอบด้วยคำว่า
- ปวีณ แปลว่า ผู้มีปัญญา ผู้มีความรอบรู้
- ภิรมย์ หมายถึง ความรื่นเริง ความสุขใจ
- กุล หมายถึง ตระกูล
รวมความได้ว่าเป็นตระกูลของผู้มีปัญญาที่ดำเนินชีวิตอย่างเบิกบานและมีความสุข
2. กุลธิติธวัฒน์
ความหมาย: ตระกูลที่เจริญด้วยทรัพย์สมบัติอันมั่นคง
- กุล = ตระกูล
- ธิติ = ความมั่นคง ความถาวร
- ธวัฒน์ = ความเจริญรุ่งเรือง
นามสกุลนี้สื่อถึงครอบครัวที่มั่งคั่งและมั่นคง ทั้งทรัพย์สินและความดีงาม
3. ปวีณวชรกุล
ความหมาย: ตระกูลแห่งเพชรผู้มีความฉลาด
- ปวีณ = ผู้มีปัญญา
- วชร = เพชร อันเป็นสิ่งล้ำค่า แข็งแกร่ง ไม่แตกสลาย
- กุล = ตระกูล
เปรียบตระกูลนี้ดั่งเพชรที่ล้ำค่า มีสติปัญญาเฉียบแหลม แข็งแกร่งไม่ย่อท้อ
4. พินันท์เวชกุล
ความหมาย: ตระกูลที่ยินดีจะเป็นหมอ
- พินันท์ = ความยินดี ความพอใจ
- เวช = การแพทย์ การรักษา
- กุล = ตระกูล
เหมาะกับครอบครัวที่สืบสายวิชาชีพด้านการแพทย์ หรือมุ่งเน้นการช่วยเหลือผู้อื่น
5. ธวัฒณวรากุล
ความหมาย: ตระกูลที่เจริญด้วยทรัพย์สมบัติจากความรู้อันประเสริฐ
- ธวัฒณ = ทรัพย์สมบัติ ความเจริญ
- วรา = ประเสริฐ เลิศ
- กุล = ตระกูล
เป็นชื่อที่สะท้อนถึงการบ่มเพาะความมั่งคั่งจากความรู้และคุณธรรม
6. ธนันทวีกุล
ความหมาย: ตระกูลผู้มีทรัพย์มากขึ้นเรื่อยๆ
- ธนัน = ทรัพย์
- ทวี = เพิ่มขึ้น
- กุล = ตระกูล
สื่อถึงตระกูลที่มีฐานะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งทางวัตถุและจิตใจ
7. จินณวราสีห์
ความหมาย: ผู้ประเสริฐทางความรู้ที่มีความคิดดั่งเจ้าป่า
- จินณ = ความคิด ความรู้
- วรา = ประเสริฐ
- สีห์ = สิงโต เจ้าแห่งสัตว์
แสดงถึงผู้ทรงภูมิปัญญา มีความสง่างามและเป็นผู้นำอย่างแท้จริง
8. เหมกันต์กุล
ความหมาย: ตระกูลที่พอใจในทองคำ
- เหม = ทอง
- กันต์ = เป็นที่รัก พอใจ
- กุล = ตระกูล
ชื่อนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการสื่อถึงความรุ่งเรือง ความมั่งมี และมีเสน่ห์น่าหลงใหล
9. อธิภคธนพงษ์
ความหมาย: ตระกูลของผู้มีทรัพย์สมบัติอันยิ่งใหญ่
- อธิภค = สมบัติมหาศาล
- ธน = ทรัพย์
- พงษ์ = ตระกูล
แสดงถึงความมั่งคั่งสูงสุด เป็นชื่อที่ทรงพลัง เหมาะแก่การสืบทอดเกียรติภูมิ
10. เชฏฐนิชกุล
ความหมาย: ตระกูลของผู้เป็นใหญ่ตลอดกาล
- เชฏฐ = ใหญ่ ผู้เป็นหัวหน้า
- นิช = สืบทอด ถาวร
- กุล = ตระกูล
เหมาะกับตระกูลที่ต้องการย้ำถึงภาวะผู้นำ ความมั่นคง และการคงอยู่ของเกียรติในระยะยาว
นามสกุลเหล่านี้ไม่เพียงแค่สละสลวยและไพเราะ แต่ยังมีความหมายเชิงบวก เป็นมงคล และสามารถประยุกต์ใช้เพื่อตั้งนามสกุลใหม่ให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ทางราชการได้ โดยผู้ตั้งควรตรวจสอบในระบบทะเบียนก่อนว่าไม่มีผู้ใช้อยู่แล้ว และพิจารณาความเหมาะสมทั้งในเชิงภาษาและวัฒนธรรมอีกครั้งก่อนจดทะเบียนจริง